คะแนน เน็ตไอดอล เซ็กซี่ ขอโทษสวมรอยใช้ชื่อรุ่นน้อง ขอเปลี่ยนนามสกุลให้ต่างกัน

คะแนน เน็ตไอดอล สาวข้ามเพศ ขออภัยสวมรอย ใช้ชื่อรุ่นน้องหญิง อ้างถูกโฉลก ขอเปลี่ยนนามสกุลให้ต่างกัน

จากกรณี น.ส.กนกญาดา หรือ จอย อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัว เดินทางไปพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้จัดตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอคำปรึกษาหา แนวทางการดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่ คนมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นสาวข้ามเพศ หลังจากนำบัตรประจำตัวประชาชน และก็ข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จนกระทั่งตัวเอง ถูกออกหมายเรียก จากหลายหน่วยงาน

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับ เน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง และก็เป็นเพื่อน รุ่นพี่ในโรงเรียน และต่อมา เขาต้องการใช้ชื่อ ที่เป็นชื่อผู้หญิง และก็มีเอกสารใช้ยืนยัน ก็เลยยืมบัตรประชาชนดู ก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไว้

ล่าสุด เมื่อวานนี้ตอนบ่ายที่ผ่านมา “คะแนน” กนกญาดา คะแนน เน็ตไอดอล

ที่ ถูกกล่าวอ้าง ได้เดินทาง ไปร่วมรายการ ถกไม่เถียง เพื่อชี้แจง ถึงเรื่องดังที่กล่าวมาแล้ว โดยมี น.ส.กนกญาดา อายุ 24 ปี หรือ น้องจอย คนที่ออกมา ร้องทุกข์เรื่องดังกล่าว มาร่วมรายการด้วย โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสภาทนายความ มาร่วมคุย ในเรื่องของกฏหมาย

โดย “คะแนน” สารภาพว่า นำชื่อของ จอย ไปใช้เป็นของตัวเองจริง เนื่องจากว่าชื่อถูกโฉลก ตัวเองมีความเชื่อ ในทางสายมูมาก ๆ ในยุคที่เรียน หมอดูเคยบอก ไว้ ว่าหากใช้ชื่อนี้จะดี แต่ว่าไม่เคยเอาชื่อ ไปใช้ในทางที่ไม่ดี

การันตีไม่เคยเอา ไปทำธุรกรรมอะไรเลย เนื่องจากว่าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจริง ส่วนที่จะต้องมาขอรูป บัตรประจำตัวประชาชนอีกครั้งนั้น

ก็เพราะว่าเฟซบุ๊กมีปัญหา จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนสำหรับการยืนยันตัวตน ก็เลยให้รุ่นน้อง ที่สนิทกับจอย ทักมาขอ ซึ่งที่ จอย ติดต่อตนมิได้ ก็เพราะว่าเฟซบุ๊กมีปัญหาเช่นกัน ซึ่งตัวเองรับผิด ว่ามิได้บอกจอยว่า จะเอาชื่อไปทำอะไรบ้าง เนื่องจากว่าไม่คิดว่า จะมีปัญหาระยะยาว

แต่ว่าพอเข้าวงการ ก็ไปเปลี่ยนชื่อของตน แต่ว่ามีการปรับนามสกุล ให้แตกต่างกันนิดหน่อย รับผิดว่า ติดกระดุมผิด มาตั้งแต่เม็ดแรก

มีความคิดว่าตัวเองมิได้ ทำอะไรผิดกฏหมาย และไม่ได้คดโกงคนไหน เนื่องจากว่าทำแต่งาน เลยมีความคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อะไรหลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ว

ส่วนคำถามที่ว่า ที่นำชื่อของจอยไปใช้ เนื่องจากว่าอยากมีตัวตน เป็นเพศหญิง แต่ว่าเป็นเนื่องจากว่าความเชื่อถือในเรื่อง ของความถูกโฉลก และก็สายมูเท่านั้น

ส่วนเรื่องของเอกสาร เกี่ยวกับการจ่ายภาษี คาดว่าอาจจะเป็นเนื่องจากว่าความผิดพลาดในเรื่องเอกสาร อาจจะพิมพ์พลาด เนื่องจากว่านามสกุลต่างกันเล็กน้อย ซึ่งประเด็นนี้ คะแนนจะ รับผิดชอบเอง แต่ว่าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก ก็ให้เป็นตาม กฎหมายได้เลย การันตีจะไม่เกิดอะไรอย่างนี้อีก

พร้อมกับขออภัยทั้งตัวจอย และก็ ครอบครัวของจอย โดยต่อจากนี้ ต้องคุยกัน เรื่องของการเยียวยา และก็ยอมที่จะเปลี่ยนนามสกุล ให้ไม่เหมือนกับจอยอีก ส่วนหากมีบุคคลเอาชื่อ นามสกุล และก็รูปภาพของคะแนน ไปสวมรอยอีก ก็ต้องช่วยเหลือน้องจอย เพราะว่าคะแนนเอาชื่อ ของน้องมาใช้ ซึ่งทางจอยเอง ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และก็ยอมจบเรื่องราว แต่โดยดี

แจ้งจับ “เน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่” สวมรอยใช้ชื่อ-สกุล รับงานเว็บไซต์พนัน ที่จริงเป็นสาวสอง เมื่อวานนี้ที่ผ่านมา น.ส.กนกญาดา อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางไปพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้จัดตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเห็นหาแนวทางการดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่คนมีชื่อเสียง ซึ่ง เป็นสาวสอง หลังนำบัตรประจำตัวประชาชนและก็ข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จนกระทั่งตัวเองถูก ออกหมายเรียก จากหลายหน่วยงาน

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับเน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง

และก็เป็น เพื่อนรุ่นพี่ในสถานศึกษา และก็ถัดมาเขาต้องการใช้ชื่อ ที่เป็นชื่อเพศหญิง และก็มีเอกสารใช้รับรอง ก็เลยยืมบัตรประชาชนดู ก่อนจะใช้โทรศัพท์ ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไว้

หลังจากจบการศึกษาก็มิได้ติดต่อกัน จนกระทั่งเดือน พฤษภาคม 58 เขาทักมาบอก อยู่โรงพยาบาล และก็ขอให้ถ่ายบัตรใหม่ ของเก่าทำหาย แต่ว่าคราวนั้นตนมิได้ให้ไป จนกระทั่งปี 2563 ได้รับหมายศาลให้ไปพบตำรวจกองปราบ เพราะว่ามีชื่อ ไปโฆษณาชักชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจ้งว่า เป็นคนเดียวกันไหม ในเวลานั้นก็มีความคิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้ว

ถัดมาได้มี เอกสารจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ส่งมาให้ไปแจกแจงตลอดมา ล่าสุดตอนวันที่ 22 ส.ค. 2565 ได้รับหนังสือ จากสำนักงานคณะกรรมควบคุม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะว่า พี่เขาได้ถ่ายภาพโฆษณาคู่กับ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยใช้ชื่อเรา รวมถึงอีกหลายครา ที่ผ่านมาเคยเห็น มีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก เป็นชื่อใหม่ หลาย ๆ ชื่อ

หลังเกิดเรื่องก็พยายาม ติดต่อกลับไป แต่ว่าก็ติดต่อมิได้ ถูกบล็อกทุกช่องทาง ต่อไปนี้จะเดินทาง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเขา เนื่องจากว่าทำให้เราเดือดร้อน และก็เป็นห่วงเรื่องอนาคตถ้าหากจะต้องไปทำงานที่ใด แล้วมีชื่อตัวเอง กระทำผิดต่าง ๆ ต่อมาทางเพจสายไหม ได้พาผู้เสียหาย เข้าแจ้งความดำเนินคดี กับเน็ตไอดอลมีชื่อเสียงรายนี้ที่ สถานีตำรวจสายไหม