ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ประกาศชัดเจนว่าจะยังรับใช้ชาติถัดไป หลังประสบความสำเร็จพาทีม ฟ้าขาว คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก 2022 มาเชยชมจากการพิชิต ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.
เมสซี่ เคยให้สัมภาษณ์ กับสื่อว่าศึก ฟุตบอลโลก 2022
จะเป็นการร่วมฟาดแข้ง ในรายการนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเขาก่อนบอกลาทีมชาติ เพราะเหตุว่าในอีกสี่ปีข้างหน้า เขาจะมีอายุ 39 ปีซึ่งสูงอายุมากเกินไป
อย่างไรก็ดี ดาวเตะทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่ได้ระบุชัดว่าจะโบกมือลาทีมชาติ ทันทีหรือไม่หลังจบภารกิจที่ กาตาร์ และล่าสุดเจ้าตัวได้เอ่ยว่าจะยังรับ ใช้แผ่นดินเกิดถัดไป แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาหวังพาทีมป้องกันแชมป์ในปี 2026 หรือเปล่า
“ผมยังไม่รีไทร์จากทีมชาติ อาร์เจนติน่า” เมสซี่ เอ่ยกับสื่อหลังจบเกมชิงแชมป์ดวลกับ แชมป์เก่า
“ผมต้องการเล่นต่อในฐานะแชมป์ เราเหนื่อยกันมาก แต่พวกเราเป็น แชมป์โลก แล้วในตอนนี้”
“ผมต้องการเล่นต่อ ผมไม่อาจขออะไรมากกว่านี้ ได้อีกแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ที่มอบทุกอย่างให้ผม”
ขณะเดียวกันนี้เมสซี่ ได้โพสต์ข้อความลงบนอินสตาแกรมด้วยเหมือนกัน
“แชมป์โลก! ผมฝันถึงสิ่งนี้มาหลายทีแล้ว ผมต้องการมันมาก ผมไม่อยากจะเชื่อเลย…”
“ขอบคุณครอบครัวของผมเป็นอย่างสูง แล้วก็ทุกคนที่สนับสนุน ผมซึ่งเชื่อมั่นในตัวพวกเรา”
“พวกเราแสดงให้เห็นอีกทีถึงความเป็นชาว อาร์เจนไตน์ ซึ่งพวกเราต่อสู้ร่วมกัน รวมทั้งเป็นหนึ่งเดียวกันจนประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งเป้าเอาไว้”
“ขอยกความดี ความชอบ ให้กับนักฟุตบอล ทุกคน มันเป็นการต่อสู้โดยมีความฝันด้วยกันซึ่งเป็นความฝันของชาว อาร์เจนไตน์…เราทำสำเร็จแล้ว!”
ต่อการประกาศดังกล่าวของ เมสซี่มั่นใจว่าเขาอาจรับใช้ชาติถัดไปจนกระทั่งปี 2024 เพื่อป้องกันแชมป์ โกปา อเมริกา ที่ตัวเขาเองประสบความสำเร็จได้แชมป์รายการดังกล่าวเป็นครั้งแรกในชีวิต เหมือนกันเมื่อปี 2021
เข้าทำเนียบตำนาน! เมสซี่แข้งรายที่ 9 สร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังโลก
ลิโอเนล เมสซี่กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา สร้างตำนานกลายเป็นผู้เล่นรายที่ 9 ในหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็ บัลลงดอร์ ตลอดอาชีพนักเตะ
ดาวเตะวัย 35 ปีซึ่งตอนนี้โลดแล่นอยู่กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ทำสถิติลงเล่นในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายมากที่สุด 26 เกมแซงหน้า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมนี
นอกเหนือจากนี้ ตำนาน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า พึ่งจะทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ อาร์เจนตินาในฟุตบอลโลกที่เคยเป็นของ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไปแล้ว 13ประตู
ตอนนี้ เมสซี่ สร้างตำนานบทใหม่ในอาชีพเมื่อนำทัพ “ฟ้าขาว” ผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2022 ด้วยการคว่ำ ฝรั่งเศส ด้วยการดวลจุดโทษชนะ 4-2 หลัง 120 นาทีเสมอ 3-3 ทำให้เขาเข้าทำเนียบนักเตะรายที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูโรเปี้ยน คัพหรือแชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ บัลลงดอร์
ทำเนียบนักฟุตบอลอาชีพที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ยูโรเปี้ยน คัพ) รวมทั้งบัลลงดอร์
1. บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
ฟุตบอลโลก 1966 (อังกฤษ); ยูโรเปี้ยน คัพ 1968 (แมนฯ ยูไนเต็ด); บัลลงดอร์ 1966
2. ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์
ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1972, 1976
3. แกร์ด มุลเลอร์
ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1970
4. เปาโล รอสซี่
ฟุตบอลโลก 1982 (อิตาลี); ยูโรเปี้ยน คัพ 1985 (ยูเวนตุส); บัลลงดอร์ 1982
5. ซีเนดีน ซีดาน
ฟุตบอลโลก 1998 (ฝรั่งเศส); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2002 (เรอัล มาดริด); บัลลงดอร์ 1998
6. ริวัลโด้
ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2003 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 1999
7. โรนัลดินโญ่
ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2005
8. กาก้า
ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 2007
9. ลิโอเนล เมสซี่
แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006, 2009, 2011, 2015 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021